LEARNING OUTSIDE THE CLASSROOM
สื่อการเรียนรู้ สื่อนอกห้องเรียน
พี่น้องจำปาดะ
สายพันธุ์ที่คุ้นเคย
พืชในวงศ์ขนุนนั้นมีประมาณ 60 ชนิด โดยมีคุณลักษณะร่วมกันคือ เป็นไม้พุ่มและไม้ยืนต้น เป็นพืชที่มียางสีขาวเหมือนน้ำนม ดอกเป็นดอกช่อและผลเป็นผลรวม
ขนุน
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น : บะหนุน, มะหนุน (ภาคเหนือ), หมากมี้, บักหมี่ (ภาคอีสาน), หนุน (ภาคใต้), นากอ (มลายู), หมากลาง (ไทยใหญ่), ขะเนอ (เขมร), นะซวยยะ, ปะหน่อย (กะเหรี่ยง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Artocarpus heterophyllus Lam.
ชื่อสามัญ : Jackfruit
วงศ์ : MORACEAE
ข้อมูลทั่วไป : ขนุนเป็นพันธุ์พืชที่มีถิ่นกำเนิด
ดั้งเดิมในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยมีการสันนิษฐาน
กันว่าน่าจะอยู่ในประเทศอินเดีย จากนั้นจึงมี
การแพร่กระจายพันธุ์ไปยังบริเวณเขตร้อน
ของเอเชีย ซึ่งจะพบได้มากในเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ เช่น ไทย พม่า ลาว กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย เป็นต้น
สำหรับในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ซึ่งได้มีการแพร่กระจายพันธุ์เข้ามานานมากแล้ว โดยมีปรากฏหลักฐานโบราณที่กล่าวถึงขนุนตั้งแต่ในสมัยสุโขทัย และกรุงศรีอยุธยาแล้ว ทั้งนี้ขนุนพันธุ์พื้นเมืองแท้ดั้งเดิม คือ ขนุนหนัง และขนุนละมุด (ขนุนหิน) แต่ในปัจจุบันมีการปรับปรุงพันธุ์ใหม่ ๆ มากมาย เช่น เหลืองบางเตย, ทองประเสริฐ, ทองทวีโชค, ศรีบรรจง เป็นต้น
ประโยชน์ของขนุน: เนื้อในของขนุนนำมารับประทานสดหรือทำเป็นของหวาน ยอดอ่อน ผลอ่อน และเกสรดอกตัวผู้ รับประทานเป็นผัก เมล็ดของขนุนนำไปต้ม รับประทานเป็นอาหารว่าง แก่นทำเป็นสีย้อม ใบ รากแก่น และ เมล็ดเป็นยารักษาโรคได้
จำปาดะ
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น : จำปาดะ (ภาคกลาง) จำดะ, จำปาเดาะ (ภาคใต้)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Artocarpus integer (Thunb.) Merr.
ชื่อสามัญ : Champedak
วงศ์ : MORACEAE
ข้อมูลทั่วไป :
จำปาดะมีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แถบคาบสมุทรมาลายู ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย
บรูไน และเกาะนิวกินี มักพบในป่าดิบชื้น
จำปาดะ ส่วนใหญ่มีการปลูกไว้เพียงบริเวณที่พักอาศัย
หรือปลูกแซมร่วมกับไม้ผลชนิดอื่น จึงมีแนวโน้มที่จะสูญหายไปจากท้องถิ่น เพราะการแข่งขันกับผลไม้ชนิดอื่นในช่วงฤดูกาลเดียวกันสูง กลุ่มคนปัจจุบันและเยาวชนรุ่นใหม่ขาดความคุ้นเคย มีการบริโภคกันน้อยลงจึงทําให้พืชท้องถิ่นชนิดนี้เริ่มหายไปจากท้องตลาด
จำปาดะเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นเฉพาะและมีรสหวานจัด มีน้ำเยอะกว่าขนุน เนื้อค่อนข้างนิ่ม เหนียว เคี้ยวไม่ขาดอย่างเนื้อขนุน ปัจจุบันมีสายพันธุ์จำปาดะที่ถูกพัฒนาให้มีความพิเศษกว่าพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมเพิ่มมากขึ้น
-
จำปาดะขวัญสตูล (สตูล)
-
จำปาดะสตูลสีทอง (สตูล)
-
จำปาดะน้ำดอกไม้ (สตูล)
-
จำปาดะทองเกษตร (สตูล)
-
จำปาดะดอกโดน (สตูล)
-
จำปาดะวังทอง (สตูล)
-
จำปาดะกาหลง36 (สตูล)
-
จำปาดะไร้เมล็ด (สตูล)
-
จำปาดะขนุน (สงขลา)
-
จำปาดะทองตาปาน (พังงา)
-
จำปาดะเขาแก้ว
ประโยชน์ของจำปาดะ: เนื้อในของจำปาดะรับประทานสดหรือชุบแป้งทอด บวด
ผลอ่อนรับประทานเป็นผัก เมล็ดนำไปต้ม หรือนำไปใส่แกง เช่น แกงไตปลา
แก่นทำเป็นสีย้อม ผลสุกและเมล็ดเป็นยารักษาโรคได้ และเปลือกไม้ของจำปาดะมีสรรพคุณที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและช่วยรักษาโรคมาลาเรียได้
สาเก
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น : ขนุนสำปะลอ (ภาคกลาง), สาเก
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Artocarpus altilis
ชื่อสามัญ : Bread Fruit Tree Bread nut Tree
วงศ์ : MORACEAE
ข้อมูลทั่วไป :
สาเก เป็นไม้ผลพื้นเมืองของหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดียตะวันออก และมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ต่อมาจึงแพร่หลายไปยังหมู่เกาะอินดีสตะวันตก และปลูกแพร่หลายทั่วไปในภูมิภาคเขตร้อน
ต้นสาเกมีความสูงเต็มที่ได้ถึง 20 เมตร มียางขาว มีใบใหญ่และหนา ร่องใบลึกถึงก้าน ทุกส่วนของสาเกมียางมีขาวข้น ผลกลมรีคล้ายขนุน แต่ลูกเล็กกว่า เปลือกนอกสีเขียว เนื้อในสีเหลืองซีดหรือขาว มีสองพันธุ์ คือ
-
พันธุ์ข้าวเหนียว ผลใหญ่ เมื่อสุกเนื้อเหนียว ไม่ร่วน นิยมปลูกเพื่อทำขนม
-
พันธ์ข้าวเจ้า ผลเล็กกว่า เนื้อหยาบร่วน ไม่นิยมรับประทาน
ประโยชน์ของสาเก : นิยมนำผลมาทำอาหารประเภทต่าง ๆ เช่น แกงบวด สาเกเชื่อม ทำแป้ง หรือ อื่น ๆ ใบและผล นำมาทำอาหารสัตว์ เนื้อในสาเกให้พลังงานสูง มีคุณค่าอาหารมากมาย ทั้งแคลเซียม และวิตามินหลากหลายชนิด ซึ่งช่วยต่อต้าน อนุมูลอิสระ ลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ